Details

Written by Super User

คำถาม:

ผมอายุ 46ปี หนัก53กก.ครับ เป็นเบาหวานครับ ก่อนไปตรวจรู้สึกว่ามีคนทักว่าผอมลงเลยไปตรวจทีคลีนิคโดยเจอะเลือดที่ปลายนิ้ว ค่าน้ำตาลอยู่ที่ 376 mg/dL หมอบอกว่าเป็นเบาหวาน น้ำหนักจาก60กก. ตอนไปชั่งที่คลีนิคเหลือ53 กก.ครับ โดยตรวจวันที่ 15/05/60 หมอก็ให้ยามากินเช้าหลังอาหารวันละครึ่งเม็ด โดยผมก็คุมเรื่องการกินอาหารและออกกำลังกายเกือบทุกวันครับ ผมซื้อที่ตรวจน้ำตาลมาไว้ตรวจที่บ้าน คือจะตรวจดังนี้ 1. ตรวจตอนตื่นนอนตอนเช้า ค่าที่ส่วนมากจะอยู่ที่ 90-110 โดยส่วนมาก แต่จะไม่เกิน 120 2. ตรวจหลังอาหารเช้า 2 ชม. ประมาณ 9.30 ค่าที่ได้ก็ 100-110 โดยส่วนมาก แต่จะไม่เกิน 120 3. ตรวจหลงอาหารเที่ยง 2ชม. ประมาณ 14.30น. ค่าที่ได้ก็ 110-120 แต่น้ำหนักผมก็จะอยู่ที่53โดยประมาณคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง ผมมีคำถามคือ 1. การตรวจน้ำตาลต้องมีการตรวจเพิ่มเติม หรือไม่ครับ ที่ตรวจประจำถูกต้องแล้วหรือยังครับ 2. ค่าน้ำตาลที่ได้หลังอาหารควรเป็นเท่าไหร่ครับ 3. ถ้าผมอยากจะเพิ่มน้ำหนักตัวขึ้นอีกซัก4-5 กก. (เนื่องจากคนทักว่าผอมไป) จะสามาทำได้ไหมครับและควรทำเช่นไรครับ ขอบคุณครับ

คำตอบ:  

สวัสดีค่ะ

อาการของโรคเบาหวาน ได้แก่ น้ำหนักลด กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย ตามัว เป้นต้น เมื่อมีอาการเบาหวานแล้ว แสดงว่าตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินเพื่อเอาน้ำตาลไปใช้พลังงาน เกิน 50 เปอร์เซนต์แล้ว ดังนั้น ควรรีบรักษา เพื่อไม่ให้ตับอ่อนทำงานแย่ลงไปอีก เเละเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนจากน้ำตาลที่สูงมากๆและสูงเป็นเวลานาน

การรักษาด้วยยาชนิดใด ขึ้นกับแต่ละบุคคล และน้ำตาลสะสม (HbA1c) เพื่อคุมให้น้อยกว่า 6.5

น้ำตาลก่อนอาการน้อยกว่า 110  มก/ดล.  น้ำตาลหลังอาหาร น้อยกว่า 140 มก/ดล.

แนะนำตรวจจอประสาทตา เพื่อดูว่ามีเบาหวานขึ้นตาหรือไม่ (อย่ารอให้ตามัวแล้วค่อยตรวจค่ะ) ตรวจปัสสาวะแบบพิเศษ เพื่อดูอัลบูมินในปัสสาวะ รวมถึงตรวจเส้นประสาทเท้า เพื่อป้องกันการเกิดแผลที่เท้าค่ะ 

การดูว่าน้ำหนักเหมาะสมหรือไม่ พิจารณาจาก BMI = body weight / height เป็นเมตร ยกกำลัง2  (ปกติ น้อยกว่า 22.9) หากเหมาะสมแล้ว ไม่ต้องเพิ่มน้ำหนัก แต่แนะนำให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อให้หัวใจแข็งแรง ลดภาวะดื้ออินซูลิน และมีกล้ามเนื้อค่ะ

______________________________________________________________________________________________________